top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนKamoltip Yawwapapong

หลักสูตรการศึกษาของฟินแลนด์ยืน 1 ในโลกได้อย่างไร



ทุกคนคงจะทราบดีว่าประเทศในภูมิภาคเอเซียฝั่งตะวันออกโดดเด่นเรื่องการท่องจำและความขยัน และไหนจะยอดเยี่ยมด้านทักษะคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้น นักวิชาการในหลายๆ ประเทศเน้นโมเดลสู่ความสำเร็จว่าต้องทำงานหนัก เรียนเยอะ และเล่นให้น้อย แล้วจะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า หารู้ไม่ว่ายังมีสูตรสู่ความสำเร็จอื่นที่ดีกว่านี้ เฮลตี้กว่านี้ และสุขกว่านี้อีกนะ...

ซึ่งก็คือหลักสูตรการศึกษาของประเทศฟินแลนด์ไง


มาดูเหตุผล 10 ข้อที่ทำให้หลักสูตรการศึกษาของฟินแลนด์เป็นต่อทั้งโลก ☜(゚ヮ゚☜)


1. ไม่มีการบังคับสอบ

สิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยๆนั้นคือเด็กเรียนหนักเพื่อแค่ที่จะสอบให้ผ่านและคุณครูก็สอนเพื่อให้นักเรียนสอบผ่าน คำว่าการเรียนรู้แทบจะถูกลืมในหลักสูตรของบ้านเรา แต่คุณทราบหรือไม่ว่าที่ประเทศฟินแลนด์ไม่มีแบบทดสอบมาตรฐานให้ปวดหัวอย่างเทรนด์บ้านเรา เด็กฟินแลนด์จะสอบแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ที่เด็กทำด้วยความสมัครใจในเทอมสุดท้ายของการศึกษา ม.ต้นเพื่อเข้าศึกษาต่อ ม.ปลายเรียกว่า “The National Matriculation Exam” เด็กนักเรียนในฟินแลนด์จะได้รับการประเมินเป็นส่วนบุคคลและตามระบบที่ครูผู้สอนจัดทำขึ้น

2. ครูไม่ต้องรับผิดเรื่องที่ไม่จำเป็น

โดยปกติเรามักจะเห็นว่า ถ้าหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คุณครูมักจะต้องเป็นผู้ที่มารับผิดชอบความผิดนั้นเสมอ แต่ที่ฟินแลนด์ไม่มีแบบนี้ เพราะคุณครูทุกคนต้องจบปริญญาโทก่อนเข้าสู่วิชาชีพครู ดังนั้น ที่นี่จึงไม่มีการจัดระดับความสามารถของคุณครู และถ้าครูคนใดทำหน้าที่ได้ไม่ดี ก็จะเป็นความรับผิดชอบของครูใหญ่แต่ละคนที่จะต้องจัดการกับปัญหาเป็นกรณีไป

3. ใช้การร่วมมือไม่ใช่การแข่งขัน

การศึกษาในหลายๆประเทศเห็นชอบเรื่องการแข่งขัน อะไรๆ ก็ต้องแข่งขัน แต่ที่ฟินแลนด์นั้นมีความคิดต่างออกไป นั่นคือ ผู้ชนะที่แท้จริงไม่ต้องแข่งขัน และทัศนคติแบบนี้นี่เอง ที่ทำให้ระบบการเรียนการสอนแบบฟินแลนด์โด่งดังไปทั่วโลก ระบบการศึกษาที่นี่ไม่มีบรรทัดฐานที่สร้างการแข่งขัน แต่ความร่วมมือกันต่างหากคือบรรทัดฐานของการเรียนรู้แบบฟินแลนด์

4. ความต้องการพิ้นฐานต้องมาก่อน

หลักสูตรการศึกษาแบบฟินแลนด์เน้นที่การกลับไปสู่พื้นฐาน ซึ่งจะไม่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับคะแนน แต่พวกเขาต้องการทำให้สภาพแวดล้อมของโรงเรียนมีความเท่าเทียมมากขึ้น พื้นฐานที่สำคัญที่ว่าคือ ใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการสร้างความสมดุล เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันทางสังคม มีอาหารฟรีให้กับนักเรียนในโรงเรียน มีการเข้าถึงการบริการสุขภาพอย่างง่ายดาย มีการให้คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยา และให้คำแนะนำแก่นักเรียนรายคน ทั้งนี้ก็สามารถเข้าใจได้เลยว่าการเริ่มต้นกับสภาพแวดล้อมที่พร้อมและเท่าเทียมกันคือวิถีการสอนของฟินแลนด์

5. เรียนไม่เร่งแต่เน้นคุณภาพ

โรงเรียนที่ฟินแลนด์ให้เด็กเริ่มเข้าเรียนเมื่ออายุครบ 7 ปี เนื่องจากวัยนี้เป็นวัยที่กำลังพัฒนา การเรียนที่นี่จึงมักให้เด็กๆ ได้รับอิสระอย่างเต็มที่ โดยให้เด็กได้เป็นเด็กที่แท้จริง และไม่ต้องถูกบังคับอยู่กับการศึกษาภาคบังคับเหมือนที่อื่นๆ โรงเรียนภาคบังคับที่ฟินแลนด์มีเพียง 9 ปีเท่านั้น เมื่อพ้น เกรด 9 ตอนอายุครบ 16 ไปแล้ว เด็กๆ จะเรียนต่อหรือไม่ก็ได้ ถ้ามองจากมุมมองทางด้านจิตวิทยา การเรียนรู้แบบนี้คือการเรียนรู้ที่ปล่อยเป็นอิสระ เพราะการเริ่มเรียนเร็วๆ แบบที่อื่นๆ มักทำให้เด็กหลายคนรู้สึกอย่างกับว่ากำลังอยู่ในคุกที่มีการบังคับอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ฟินแลนด์จึงเปลี่ยนการเรียนแบบบังคับ เป็นการเรียนรู้ที่เตรียมความพร้อมให้กับเด็กๆ ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงนั่นเอง

6. จะต่อสายไหนก็มีคุณค่า

เนื่องจากนักเรียนหลายๆ คนไม่จำเป็นต้องเข้ามหาวิทยาลัยหรือต้องการปริญญา ที่ฟินแลนด์จึงจัดให้ทั้งการเรียนต่อมหาวิยาลัยหรือการต่อสายอาชีพมีคุณค่าน่าเชื่อถือทางวิชาชีพเท่าเทียมกัน ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายซึ่งกินระยะเวลา 3 ปีจะช่วยเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับการสอบวัดความรู้ครั้งสุดท้ายที่จะเป็นตัวตัดสินความพร้อมเข้ามหาวิทยาลัย ซึ่งคณะที่เข้าก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของพวกเขาช่วงม.ปลายนั่นเอง นักเรียนยังมีตัวเลือกของอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นโปรแกรมฝึกอบรมทางอาชีพ นักเรียนที่มาเส้นทางนี้สามารถเลือกสอบวัดความรู้เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้

7. ตื่นช้ากว่าแต่เวิร์คกว่านะ

นักเรียนที่ฟินแลนด์มักจะเริ่มเรียนเวลา 9:00 - 9:45 น. งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการเริ่มเรียนเช้าเกินไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ความเป็นอยู่ และวุฒิภาวะของนักเรียน โรงเรียนฟินแลนด์เลิกเรียนเวลา 14:00 - 14:45น. พวกเขามีคาบเรียนที่ยาวและเวลาพักที่นานกว่าบ้านเรา ระบบโดยรวมนั้นไม่ออกแบบมาเพื่อยัดความรู้ให้กับนักเรียนแต่เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้แบบองค์รวม

8. เรียนกับคุณครูคนเดิมยาวๆ ไปเลย

ในการศึกษาแบบฟินแลนด์นักเรียนมักเรียนกับคุณครูคนเดิมเป็นเวลา 6 ปีของการศึกษา ในช่วงเวลานี้คุณครูเป็นทั้งที่ปรึกษา และเป็นสมาชิกในครอบครัว ทำให้เกิดความเคารพและเชื่อใจซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก ครูผู้สอนเองก็สามารถตอบความต้องการที่แตกต่างกันของนักเรียนได้ โดยการติดตามอย่างแม่นยำ เอาใจใส่ความก้าวหน้าและช่วยนักเรียนให้บรรลุเป้าหมายของตน ไม่มีการเปลี่ยนมือจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งเหมือนที่อื่นๆ

9. บรรยากาศเรียนที่ผ่อนคลาย

โดยปกติแล้วเด็กเรียนแค่ไม่กี่คาบต่อวัน พวกเขามีเวลาพักทานอาหารหลายรอบ ทั้งยังสนุกไปกับกิจกรรมนันทนาการและผ่อนคลายโดยทั่วไป ในหนึ่งวันมีเวลาให้นักเรียนพัก 15-20 นาทีอยู่หลายครั้งเพื่อให้เด็กลุกขึ้นและยืดตัว สูดอากาศและคลายความเครียด ฝั่งคุณครูเองก็มีห้องให้พักเพื่อให้เตรียมสอนหรือพบปะพูดคุยกับครูคนอื่น

10. การบ้านน้อยๆ ก็พอ

นักเรียนที่ฟินแลนด์มีการบ้านและงานน้อยที่สุดในโลก โดยเฉลี่ยแล้วนักเรียนจะใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงต่อคืนเพื่อทำงานหรือการบ้านที่ครูมอบหมาย มิหนำซ้ำที่ฟินแลนด์ไม่นิยมการเรียนพิเศษ หรือสร้างความเครียดที่ไม่จำเป็นให้กับเด็ก เด็กมีหน้าที่เรียนรู้และเติบโตในฐานะมนุษย์


ตามนั้นเลยค่ะ เห็นความล้ำของระบบการศึกษาของฟินแลนด์แล้วหรือยัง ถึงเราอยู่ประเทศไทยก็เข้าถึงการศึกษาแบบนี้ได้นะคะ ติดตาม blog ของเราเพื่อเรียนรู้ไปด้วยกันว่าเราจะช่วยให้ลูกมีอนาคตการศึกษาที่สดใส style ฟินแลนด์ได้อย่างไร



สนใจเรียนรู้เพิ่มเติม หรือรับคำปรึกษาเกี่ยวกับ Finnish Homeschool CLICK ปุ่มข้างล่างเลย



ดู 260 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page